เด็กบังเอิญ

"...บทความต่างๆ ผมได้อ่านมาจากหนังสือต่างๆ และรวมรวมมาจากเว็บต่างๆด้วยและได้ยินมาด้วย ผมจึงรู้สึกว่า คำเหล่านี้และบทความเหล่านี้ อาจช่วยให้ เราได้ข้อคิดให้กำลังใจในการใช้ชีวิตบนโลกกลมๆใบนี้อย่างมีความสุขในสิ่งที่ดี งามสามารถหยิบเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อยสมควรแก่ผู้สนใจครับ ... ขอขอบคุณทุกคน ณ โอกาสนี้ครับ...." ສະບາຍດີ (เด็กบังเอิญ...)

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

แค่ส่วนประกอบ

"ความล้มเหลว
เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระบวนการเรียนรู้ของเรา"

"ทุกอาชีพย่อมมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 
และคนที่เคยล้มมาก่อนย่อมมีจิตใจที่นิ่ง
และเข้มแข็งกว่าคนที่ไม่เคยล้มเลย"


"ถ้าใบสมัครนั้นเต็มไปด้วย บทเรียน จากความล้มเหลว
คงเป็นใบสมัครที่มีพลังอย่างยิ่ง"

"ทุกครั้งที่เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ก็เช่นกัน
เราไม่จำเป็นต้องคาดหวังว่า
เราจะทำมันได้สมบูรณ์แบบตั้งแต่แรก
ค่อยๆ ทำไป ค่อยๆก้าว ค่อยๆเรียนรู้จากการล้ม
ระมัดระวังก้าวย่างของตัวเองมากขึ้น
จนในที่สุดเราก็ทำสิ่งนั้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ"

"ไม่มีทางที่คุณจะเล่นฟุตบอลเป็น
จากการอ่านหนังสือกฏกติกาของฟุตบอล" - ทีน่า ซิลิก

"เราจึงต้องเสี่ยงทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ
จึงจะทำได้ สัมผัส - รู้จัก- เข้าใจ"

"นี่คืออีกมิติหนึ่งของความล้มเหลวในชีวิต
เมื่อล้มเหลวเราจึงมองหาทางเลือกอื่น
ไม่ติดอยู่กับความเป็นไปได้เก่าๆ"

"การรังเกียจความล้มเหลวเสียจนไม่กล้าที่จะทำอะไรเลย
ซึ่งนั่นอาจนับเป็นความล้มเหลวที่สุด"

"กุญแจสำคัญอยู่ตรงที่
ความสามารถในการฟื้นตัวจากมัน
สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลาย
จุดล่างสุดของหุบเหวที่เขาจมดิ่งลงไปนั้น
ไม่ใช่พื้นคนกรีตแข็งๆ
แต่ม้ันเป็นยางที่ยืดหยุ่น เด้งดึ๋ง
พอเขาล้มลงหรือจมลงไปถึงจุดต่ำสุด
เขาจะตกอยู่ในหลุมที่มันยุบลงไปเพียงแค่ช่วงสั้นๆ
แล้วก็เด้งขึ้นมาจากมันไปสู่โอกาสใหม่ๆ ที่รอเขาอยู"


"บางคนล้มแล้วกลัวจะล้มอีก
ขณะที่บางคนล้มแล้วกล้าที่จะล้มอีกครั้ง"
.
.
.
.
(@)~BY : นิ้วกลม

อย่ากลัว

"อย่ากลัวการต่อต้าน จงจำไว้ว่า ว่าวจะลอยสูงได้เมื่อทวนลม "
“Don't be afraid of opposition. Remember, a kite rises against, not with the wind.”



แฮมิลตัน มาบี (Hamilton Wright Mabie)
(American writer, 1845-1916)
ใครจะรัก ไม่รัก จะชอบไม่ชอบเรา 
ไม่ได้ทำให้เราสุขหรือทุกข์มากขึ้น ถ้าเราไม่ให้ค่า 
แต่เพราะใจเรามันให้ค่า มันปรุงแต่ง
ถึงเกิดสุขเกิดทุกข์ขึ้นมาในใจได้ 

คนที่รักใครมากกับเกลียดใครมาก 
มักทำในสิ่งเดียวกัน
คือเอาใจใส่ ติดตาม จับจ้อง
มองหารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
ที่คนทั่วไปไม่คิดแม้แต่จะสนใจใส่ใจ

เวลาจิตชอบกับไม่ชอบอะไร
มันจะทำในสิ่งคล้ายกันแบบนั้นแหละ
คือจะมีการเข้าไปแตะ ไปสัมผัสสิ่งนั้น
แม้จะด้วยแรงจูงใจที่ต่างกัน

จิตเราเวลายินดีพอใจอะไร
จะไขว่คว้าจะยึดอยากให้มันอยู่นานๆ
เวลาไม่ชอบไม่พอใจอะไร
จะผลักไสให้มันไปห่างๆ พ้นๆ
ทั้งสองอย่างต้องมีการ “สัมผัส” เหมือนกัน

ลองสำรวจดูใจตัวเองบ้าง
รู้เข้ามาบ่อยๆ ว่ามันทำอะไรอยู่
ถ้ามองย้อนเข้ามาทีไร
เห็นมันแบกอะไรไว้ทุกที ให้ดีใจไว้
เพราะยังไงๆจิตเราก็ยังต้องแบกอยู่
ยึดอยู่เป็นธรรมดา ถ้าเห็นแบบนั้นได้ เรียกว่าเห็นถูกแล้ว
และเพียงแค่รู้สึกตัว ใจมันจะรีบปล่อยรีบวางเอง
แม้จะชั่วคราวก็เหอะ

ไม่ต้องทำอะไรมากกว่าการรู้
ไม่ต้องห้าม ไม่ต้องซ้ำเติมใจ
รู้ไป รู้ไป แล้วจะได้ของดีเอง
.
.
.
เหนื่อย หนัก รัก เกลียด รู้
โดย aston27
ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๔๒
14 MARCH 2012

                        ไม่เคยหวั่นท้อถอยหรือน้อยใจ
                         เอาความหวังทั้งสิ้นทั่วดินฟ้า
                  ปลูกศรัทธาความรักเป็นหลักหมาย
                  ปณิธานแน่วแน่มิแปรกลาย
                  ไม่ขอคลายตั้งจิตนิจนิรันดร์
                          แม้ข้านี้ได้ดีมิทันเพื่อน
                  จะไม่เยือนถิ่นเก่าให้เขาหยัน
                  เอาชีวิตติดเติมเป็นเดิมพัน
                  จะฝ่าฟันจนกว่าข้ามีชัย ฯ

เป็นเรื่องของการเสาะหา ไม่ใช่เกิดมาเป็น

เตือนตัว เตือนใจ ... »

เป็นเรื่องของการฟันฝ่า ไม่ใช่ฟลุ๊คๆเร

» เป็นเรื่องของการต่อสู้ ไม่ใช่นั่งดูดวง

» เป็นเรื่องของการฝึกฝน ไม่ใช่บุญหล่นทับ

» เป็นเรื่องของความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่โชคช่วย

» เป็นเรื่องของความสามารถ ไม่ใช่วาสนา

» เป็นเรื่องของพรแสวง ไม่ใช่พรสวรรค์
♥ ความจริงที่ต้องเรียนรู้

» ปัญหาทำให้คนเข้มแข็งจำไว้ เราไม่สู้วันนี้แล้วเราจะสู้วันไหน » เวลาทำให้คนเชี่ยวชาญ
» สถานการณ์ทำให้คนรู้จักแก้ไข
» การตัดสินใจทำให้คนรู้ถูกรู้ผิด
» ความคิดทำให้คนเป็นเลิศทางปัญญา
» การพัฒนาทำให้คนมีคุณภาพ

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

สะกิด