เด็กบังเอิญ

"...บทความต่างๆ ผมได้อ่านมาจากหนังสือต่างๆ และรวมรวมมาจากเว็บต่างๆด้วยและได้ยินมาด้วย ผมจึงรู้สึกว่า คำเหล่านี้และบทความเหล่านี้ อาจช่วยให้ เราได้ข้อคิดให้กำลังใจในการใช้ชีวิตบนโลกกลมๆใบนี้อย่างมีความสุขในสิ่งที่ดี งามสามารถหยิบเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่มากก็น้อยสมควรแก่ผู้สนใจครับ ... ขอขอบคุณทุกคน ณ โอกาสนี้ครับ...." ສະບາຍດີ (เด็กบังเอิญ...)

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

ใครจะรัก ไม่รัก จะชอบไม่ชอบเรา 
ไม่ได้ทำให้เราสุขหรือทุกข์มากขึ้น ถ้าเราไม่ให้ค่า 
แต่เพราะใจเรามันให้ค่า มันปรุงแต่ง
ถึงเกิดสุขเกิดทุกข์ขึ้นมาในใจได้ 

คนที่รักใครมากกับเกลียดใครมาก 
มักทำในสิ่งเดียวกัน
คือเอาใจใส่ ติดตาม จับจ้อง
มองหารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
ที่คนทั่วไปไม่คิดแม้แต่จะสนใจใส่ใจ

เวลาจิตชอบกับไม่ชอบอะไร
มันจะทำในสิ่งคล้ายกันแบบนั้นแหละ
คือจะมีการเข้าไปแตะ ไปสัมผัสสิ่งนั้น
แม้จะด้วยแรงจูงใจที่ต่างกัน

จิตเราเวลายินดีพอใจอะไร
จะไขว่คว้าจะยึดอยากให้มันอยู่นานๆ
เวลาไม่ชอบไม่พอใจอะไร
จะผลักไสให้มันไปห่างๆ พ้นๆ
ทั้งสองอย่างต้องมีการ “สัมผัส” เหมือนกัน

ลองสำรวจดูใจตัวเองบ้าง
รู้เข้ามาบ่อยๆ ว่ามันทำอะไรอยู่
ถ้ามองย้อนเข้ามาทีไร
เห็นมันแบกอะไรไว้ทุกที ให้ดีใจไว้
เพราะยังไงๆจิตเราก็ยังต้องแบกอยู่
ยึดอยู่เป็นธรรมดา ถ้าเห็นแบบนั้นได้ เรียกว่าเห็นถูกแล้ว
และเพียงแค่รู้สึกตัว ใจมันจะรีบปล่อยรีบวางเอง
แม้จะชั่วคราวก็เหอะ

ไม่ต้องทำอะไรมากกว่าการรู้
ไม่ต้องห้าม ไม่ต้องซ้ำเติมใจ
รู้ไป รู้ไป แล้วจะได้ของดีเอง
.
.
.
เหนื่อย หนัก รัก เกลียด รู้
โดย aston27
ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๔๒
14 MARCH 2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น